เครื่องหมาย “E-mark (Estimated sign)”
เครื่องหมาย “E-mark” เป็นเครื่องหมายรับรองว่ารถยนต์ หรือชิ้นส่วนยานยนต์นั้นๆ ได้ปฏิบัติตามระเบียบสหภาพยุโรป/ECE ที่เกี่ยวข้อง และสามารถจำหน่ายในสหภาพยุโรป รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ที่ได้ลงนามในระเบียบว่าด้วยยานยนต์ของ ECE โดยสหภาพยุโรปกำหนด ให้มีการรับรองแบบสำหรับรถยนต์ทั้งคัน รวมถึงระบบ และชิ้นส่วนยานยนต์ต่างๆ

ทำไมต้องอ้างอิง สหภาพยุโรป ?
เพราะ บรรจุภัณฑ์สินค้าของแต่ละประเทศแตกต่างกัน เช่น ในด้านภาษา จึงต้องมีการกำหนดมาตรฐานสากลร่วมกันที่จะทำให้แต่ละประเทศเข้าใจตรงกันได้ โดยทั่วไปแล้วสัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมายต่างๆ บนฉลากสินค้าในแถบสหภาพยุโรปจะใช้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทำให้ผู้ซื้อสินค้าสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรปเอง ก็ไม่จำเป็นต้องแปลความหมายสัญลักษณ์เหล่านี้ เพราะผู้ซื้อสินค้าสามารถเข้าใจสัญลักษณ์เหล่านั้นได้อยู่แล้ว
ผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมาย e-Mark นั้นมีการเข้าถึงอย่างไม่ จำกัด ในสหภาพยุโรปและสามารถให้บริการแก่ผู้บริโภคโดยไม่ต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมการประเมินผลหรือเครื่องหมายอื่น ๆ นอกจากนี้ e-Mark ยังถือว่าใช้ได้ในประเทศอื่นนอกยุโรปเนื่องจากเป็นแบบจำลองตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป

เหตุใดใบรับรอง E-Mark จึงสำคัญ
ในระบบการรับรอง E-Mark และ e-Mark ที่มีโครงสร้างทั่วไปคล้ายกันสัญญาณที่จะถูกวางไว้บนเอกสารเหล่านี้ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ การใช้อักษรตัวพิมพ์เล็ก “e” ในแนวทางของสหภาพยุโรป และจดหมายตัวพิมพ์ใหญ่ “E” ในข้อบังคับของสหประชาชาติ
-
ตามคำสั่งของสหภาพยุโรปรหัสการรับรองของประเทศคือ e1 เยอรมัน e2 ฝรั่งเศส e3 อิตาลี e4 เนเธอร์แลนด์และ e5 สวีเดน
-
การรับรองของสหประชาชาติตามรหัสประเทศของระเบียบคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจยุโรป E1 เยอรมนี E2 ฝรั่งเศส, อิตาลี E3, E37 ตุรกีและญี่ปุ่นที่อยู่ในรูปแบบ E43 E47 แอฟริกาใต้
กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักในปัจจุบันที่ครอบคลุมโดยเครื่องหมาย E-Mark ได้แก่ : รถพ่วง, ไฟหน้า, ระบบเบรก, เข็มขัดนิรภัย, ที่นั่งในยานพาหนะ, เข็มขัดนิรภัยสำหรับเด็ก ที่นั่ง, กระจกสะท้อนแสง, ไฟตัดหมอกด้านหน้า, หมอนรองศีรษะ ระบบป้องกัน, การทดสอบแรงกระแทกด้านหน้า และด้านหลัง
ประโยชน์ของเครื่องหมาย e-Mark มีดังนี้
-
แสดงการรับรองว่าปฏิบัติตามมาตรฐานสหภาพยุโรป
-
สามารถนำสินค้าเข้าสู่ตลาดสหภาพยุโรปและเขตพื้นที่อื่นที่อยู่ภายใต้ UN ECE
-
ปลดล็อคโอกาสในการเติบโต
-
ลดความเสี่ยงในการถูกสั่งเรียกคืนผลิตภัณฑ์และสูญเสียรายได้จากยอดขาย

ความแตกต่างระหว่างสินค้า มี และ ไม่มี E-mark
สินค้าที่มี E-mark
-
ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานของยุโรป
-
รับรองสินค้าจากต่างประเทศ
-
สินค้ามีอายุการใช้งานที่นาน
สินค้าที่ไม่มี E-mark
-
ไม่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานใดๆ
-
สินค้าไม่มีการรับรองในระดับสากล
-
สินค้ามีอายุการใช้งานที่สั่นกว่า
โดยสรุปการรับรอง E-Mark หรือ e-Mark ภายใต้กรอบของมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า กระบวนการของผลิตภัณฑ์เป็นไปตามข้อกำหนดของคำสั่งหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องในระดับสากล
